Page 36 - การถนอมอาหาร
P. 36

32 • การถนอมอาหาร










                                        การใช้สารเคมีในอาหาร



                    ๑. โซเดียมไบคาร์บอเนต (SODIUM BICARBONATE) มักใช้ผสมในเนื้อสัตว์เพื่อช่วยท�าให้

              เนื้อนุ่ม แต่ถ้าใช้ปริมาณมากเกินไปสามารถก่อให้เกิดอันตรายได้ จะไปก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อ
              เยื่อบุกระเพาะหรือล�าไส้

                    ๒. วัตถุกันเสียหรือสารกันบูด (PRESERVATIVE)
                      วัตถุกันเสียหรือสารกันบูด หมายถึง สารชนิดใด ๆ ก็ตามที่สามารถจะท�าการยับยั้งหรือ
              ชะลอการบูด หรือความเสื่อมเสียอื่น ๆ ของอาหารโดยไปเป็นตัวช่วยในการชะงักการเจริญเติบโต หรือ

              ท�าลายจุลินทรีย์ สารกันบูดที่นิยมใช้กันมาก ได้แก่ กรดเบนโซอิก และเกลือเบนโซเอทกรดแลคติก
                    ๓. ผงชูรส (MONOSODIUM GLUTAMATE) จัดเป็นวัตถุเจือปนในอาหารประเภทเน้นรสชาติ

              ให้เด่นขึ้นหรือช่วยชูรสอาหาร ได้มีผู้หลอกลวงน�าสารเคมีอื่น ๆ ที่มองดูลักษณะคล้ายผงชูรสมาผสม
              ผงชูรสขาย ตัวอย่างสารเคมีที่น�ามาผสม ได้แก่ บอแรกซ์ (BORAX) และโซเดียมเมตาฟอสเฟต
              (SODIUM METAPHOSPHATE) ซึ่งถ้ามองด้วยตาเปล่าจะบอกได้ยากมาก สารทั้งสองตัวนี้เป็นสาร
              ที่ไม่อนุญาตให้ไว้ใช้ในอาหาร ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๒๒)

                    ๔. บอแรกซ์หรือน�้าประสานทอง พบว่าเมื่อใส่อาหารประเภทลูกชิ้นหรือเนื้อสัตว์จะท�าให้
              กรอบขึ้น หรือที่มีการโฆษณาว่าลูกชิ้นเด้งนั่นเอง ถ้าบริโภคเข้าไปจะก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อ
              เยื่อบุทางเดินอาหาร เกิดอาการคลื่นเหียน อาเจียน ท้องเดิน น�้าหนักตัวลด ในกรณีที่บริโภคเข้าไป

              เป็นปริมาณมาก อาจจะท�าให้อาเจียนเป็นเลือด ปวดท้อง ปัสสาวะไม่ออก ความดันโลหิตต�่า
              อาจท�าให้หมดสติได้ นอกจากนี้ พบว่ามีอาการเป็นผื่น อาจจะเป็นทั่วตัวหรือเฉพาะที่ มีอาการเกร็ง
              ของกล้ามเนื้อที่หน้า มือ เท้า และหายใจไม่สะดวก เป็นต้น บอแรกซ์จัดเป็นสารที่มีอันตรายต่อการ
              บริโภค ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๒๒) ห้ามใช้ในอาหารเนื้อสัตว์โดยเด็ดขาด

                    ๕. สารประกอบฟอสเฟต การเติมสารประกอบฟอสเฟตในเนื้อจะช่วยปรับปรุงคุณลักษณะ
              ต่าง ๆ ของเนื้อ ดังนี้

                      ๕.๑ เพิ่มความนุ่มของเนื้อ โดยเป็นตัวช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว เนื่องจากแอคไตโอซิน
              แยกออกจากกันได้ แอคตินและไมโอซิน ไพโรฟอสเฟต ให้คุณสมบัติข้อนี้ดีที่สุด

                      ๕.๒ เพิ่มรสชาติ โดยท�าให้โมเลกุลของเนื้อสานกันเป็นตาข่าย สามารถกักกันไม่ให้เลือด
              ของเหลวหลุดออกไป

                      ๕.๓ เพิ่มความสามารถในการอุ้มน�้า
   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41