Page 78 - คู่มือพืช - ไร่
P. 78
คู่มือพืชไร่ - นา
๓. เมตาแลกซิล เช่น ริโดมิล อัตรา ๓๐ - ๔๕ กรัมต่อ ยังมีความชุ่มชื้นเพียงพอ แก่การเจริญเติบโตในระยะแรกอยู่
น�้า ๒๐ ลิตร การปลูกในฤดูฝนควรฝังหน่อให้เอียง ๔๕ องศา เพื่อป้องกัน
น�้าขังในยอด ถ้าปลูกในฤดูแล้งฝังหน่อให้ตั้งตรง หากมีเครื่องมือ
ฤดูปลูกและวิธีปลูก ช่วยปลูก ซึ่งเป็นเหล็กคล้ายมีดปลายแหลม ช่วยเปิดหลุม
ในประเทศไทยสามารถปลูกสับปะรดได้เกือบตลอดปี จะท�าให้สะดวกและรวดเร็วกว่าใช้จอบ เฉลี่ยแล้วผู้ปลูก ๑ คน
ยกเว้นช่วงฝนตกหนักติดต่อหลายวัน เพราะจะเกิดโรคเน่า สามารถปลูกได้วันละ ๕,๐๐๐ - ๗,๐๐๐ หน่อ การปลูกส่วนใหญ่
ควรเตรียมดินให้เสร็จในเดือนธันวาคม และปลูกในเดือน มักปลูกเป็นแถวคู่ฝังหน่อให้ลึก ๑๕ - ๒๐ เซนติเมตร ใช้ระยะ
มกราคม - เมษายน ซึ่งมีแสงแดดจ้าและไม่มีฝนชุก แต่ดิน ปลูกแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์
การปลูกเพื่อขายผลสด
ระยะต้นในแถวคู่ ระยะแถว ทางเดินระหว่างแปลง จ�านวนหน่อที่ใช้ปลูกต่อไร่
๒๕ - ๓๐ ซม. ๕๐ ซม. ๑๐๐ ซม. ๗,๐๐๐ - ๘,๐๐๐
๒๕ - ๓๐ ซม. ๖๐ ซม. ๙๐ ซม. ๖,๐๐๐ - ๗,๐๐๐
การปลูกเพื่อส่งโรงงานบรรจุกระป๋อง การควบคุมและก�าจัดวัชพืช
จะร่นระยะปลูกและเพิ่มจ�านวนหน่อพันธุ์ที่ใช้ปลูก ในปัจจุบันนิยมใช้สารเคมีก�าจัดวัชพืชมากกว่าใช้แรง
ให้มากขึ้น เป็นการจ�ากัดขนาดของผลไม้ใหญ่เกินไป และไม่ให้ คน เพราะประหยัดและรวดเร็วกว่า หากท�าการควบคุมวัชพืช
มีส่วนเกินที่ไร้ประโยชน์เพิ่มขึ้น คือ ใช้ระยะต้นในแถวคู่ ได้ดี สามารถเพิ่มผลผลิตได้มากกว่าเดิม ถึง ๑ ใน ๔ เท่าตัว
ห่างกัน ๒๒ เซนติเมตร ระยะแถว ๔๕ เซนติเมตร เว้นทางเดิน สารเคมีก�าจัดวัชพืชที่นิยมใช้ในแปลงสับปะรด ได้แก่
ระหว่างแถวกว้าง ๗๕ เซนติเมตร ซึ่งต้องใช้หน่อพันธุ์มากถึง ไดยูรอน เช่น คาร์แมกซ์ ซึ่งเป็นสารเคมีคุมวัชพืชใบกว้างได้
๑๒,๐๐๐ - ๑๓,๐๐๐ หน่อต่อไร่ ผลดี ใช้ฉีดพ่นก่อนวัชพืชจะงอก และโบรมาซิล เช่น โบรมิกซ์
ซึ่งเป็นสารเคมีฆ่าวัชพืชใบแคบได้ผลดี ใช้ฉีดพ่นในแปลง
ลักษณะของผลสับปะรดที่โรงงานต้องการ สับปะรด
ผลต้องไม่แก่จัดเกินไป ผลทรงกระบอก แกนเล็ก เส้นผ่า ในแปลงสับปะรดที่ปลูกแซมในสวนยางพารา หรือ
ศูนย์กลางอยู่ระหว่าง ๔ - ๖ นิ้ว หรือมีน�้าหนักผลอยู่ระหว่าง สวนไม้ผลอื่น ๆ ให้ใช้อะทราซิน เช่น เกสาพริม หรืออะมีทริน
๐.๘ - ๓.๐ กิโลกรัม ลักษณะผลเช่นนี้จะได้ราคาดี เช่น เกสาแพกซ์ ผสมกับไดยูรอน แทน
การใช้สารเคมีเร่งการออกดอกในสับปะรด
๑. เอทธิฟอน
เป็นสารเคมีที่ให้ก๊าซเอทธิลินโดยตรง เมื่อเอท-
ธิฟอนเข้าไปในเนื้อเยื่อสับปะรด จะแตกตัวปล่อยเอทธิลิน
ออกมา เอทธิลินเป็นตัวชักน�าให้เกิดการสร้างตาดอกขึ้น
ซึ่งจะท�าให้เก็บผลได้ก่อนก�าหนดประมาณ ๒ เดือน ใช้ในอัตรา
๘ ซีซีต่อน�้า ๒๐ ลิตร และเติมปุ๋ยยูเรียอีก ๓๐๐ กรัม ผสมให้
เข้ากันดีแล้ว ใช้หยอดยอดหรือฉีดพ่น ต้นละ ๗๐ - ๘๐ ซีซี
67