Page 79 - คู่มือพืช - ไร่
P. 79

คู่มือพืชไร่ - นา




              หยอด ๒ ครั้ง ห่างกัน ๕ - ๗ วัน สารนี้เมื่อผสมน�้าแล้ว ต้อง    -  ตาย่อย จะนูนเด่นชัดเรียกว่าตาเต็ม ร่องตาจะตึง
              ใช้ทันทีอย่างช้าไม่เกิน ๒ ชั่วโมง เวลาที่เหมาะสมในการหยอด  เต็มที่ขนาดของผลไม่เพิ่มขึ้นอีก
              คือ ตอนเช้ามืด และต้นสับปะรดต้องมีลักษณะพร้อมที่       -  ดมกลิ่น ผลสับปะรดแก่จะส่งกลิ่นหอมเฉพาะตัว
              จะออกดอก หากฝนตกมาภายใน ๒ ชั่วโมงหลังการใช้สารนี้      -  ความแน่นของผล จะลดลงเมื่อใช้นิ้วดีดหรือไม้เคาะ

              ให้ท�าซ�้าอีกครั้ง ให้เร็วเท่าที่จะท�าได้        เพื่อฟังเสียง ถ้าเสียงโปร่งแสดงว่ายังไม่แก่ ถ้าเสียงทึบ (หรือ
                    ๒. ถ่านแก๊สแคลเซียมคาร์ไบด์ (บางที่เรียกว่าถ่าน แปะ) แสดงว่าแก่จัดได้ที่แล้ว
              เหม็น)

                      การใช้แคลเซียมคาร์ไบด์ เร่งดอกสับปะรดเป็นที่
              นิยมกันมาก เพราะหาง่ายและราคาไม่แพง แต่การใช้จะได้
              ผลดีนั้น ต้นสับปะรดจะต้องมีลักษณะพร้อมที่จะออกดอก คือ
              มีอายุระหว่าง ๗ - ๘ เดือน หรือมีโคนต้นที่อวบใหญ่ ประมาณ
              น�้าหนักของต้น ๒.๕ กิโลกรัมขึ้นไป หรือมีใบ ๔๕ ใบขึ้นไป

              จึงใช้สารเร่งดอกได้ผล
                      การใช้แคลเซียมคาร์ไบด์ เพื่อเร่งดอกสับปะรด
              นั้น ปัจจุบันมีชนิดเกล็ดส�าเร็จรูปเพื่อให้ใช้ได้ง่าย โดยใช้อัตรา

              ๒๐๐ - ๒๕๐ กรัมต่อน�้า ๒๐ ลิตร ปล่อยให้เดือดเต็มที่แล้วน�า
              ไปหยอดสับปะรดต้นละ ๗๐ - ๘๐ ซีซี (ถ้าเป็นแปลงสับปะรด
              ตอหยอดต้นละ ๘๐ - ๙๐ ซีซี) ท�าการหยอด ๒ ครั้งห่างกัน
              ๕ - ๗ วัน ควรท�าในเวลาเช้ามืดหรือตอนเย็น เพราะถ้าท�าใน  การเก็บผล
              ตอนกลางวันจะได้ผลไม่ดีนัก หากฝนตกมาภายใน ๒ ชั่วโมง     การเก็บผลเพื่อบริโภคผลสด

              หลังการใช้สารนี้ ให้ท�าซ�้าอีกครั้ง ให้เร็วเท่าที่จะท�าได้       ใช้มีดตัดที่ก้านผลให้เหลือขั้วติดผลไว้บ้าง และคงให้มี
                    หลังจากหยอดสารเร่งประมาณ ๔๐ - ๔๕ วัน จะเริ่ม  จุกติดอยู่กับผลเพื่อป้องกัน การเน่าของผล อันเนื่องจากแผล
              เห็นสับปะรด เป็นจุดแดงอยู่ภายในยอด ต่อมา ๖๐ - ๗๐ วัน   ที่เกิดจาก การปลิดจุกหรือขั้วผลออก หลังจากตัดผลแล้วให้

              จะเห็นผลสับปะรดขนาดเล็กทรงกลมสีแดงโผล่ขึ้นจากยอด   ใช้มีดฟันใบต้นเดิมออกเสียบ้าง
              อาจมีดอกสีม่วงอยู่ด้วยดอกจะเริ่มบาน จากฐานไปยอดลูก      เพื่อให้หน่อได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่ และเหลือหน่อ
              ประมาณ ๙๐ วัน ดอกสีม่วงจะแห้ง แล้วเข้าสู่ช่วงการขยาย   ดินไว้แทนต้นเดิม ๑ - ๒ หน่อเท่านั้น ส่วนหน่อที่เหลือก็ขุด
              ขนาดผลซึ่งจะขึ้นอยู่กับความชื้น และธาตุอาหารที่ต้นสับปะรด   หรือปลิดออกจากต้นน�าไปปลูก ขยายเนื้อที่หรือจ�าหน่าย
              ได้รับในระหว่างการเจริญ เติบโตของผล (ปัจจุบันมีปัญหาขาด  ต่อไปได้ พันธุ์ภูเก็ตจะนิยมปลิดจุกตั้งแต่ผลมีอายุประมาณ

              แรงงานในการหยอดแก๊ส จึงไม่แนะน�าให้ใช้วิธีนี้)   ๒ เดือน ส่วนพันธุ์อินทรชิต และพันธุ์ขาวจะตัดจุกทิ้งประมาณ

                                                               ๑/๒ ส่วน ในเวลาที่เก็บผลจ�าหน่าย
              การเก็บเกี่ยว                                          การเก็บผลเพื่อส่งโรงงานอุตสาหกรรม

                    การสังเกตผลแก่ของสับปะรด พิจารณาได้จาก           ก็จะปลิดผลออกจากก้านเท่านั้น หรืออาจจะปลิดจุก
              ลักษณะภายนอกผลดังนี้                             ออกด้วย
                    -  ผิวเปลือก  จะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นเขียวอมเหลือง      การเก็บผลสับปะรดให้ได้คุณภาพดี
              อมส้ม หรือเขียวเข้มเป็นมัน                             ควรเก็บ ๓ ครั้ง

                    -  ใบเล็ก ๆ ของตาย่อยจะเหี่ยวแห้ง เป็นสีน�้าตาล      -  ครั้งแรก จะเก็บได้ประมาณ ๒๐ - ๒๕% ของผล
              หรือชมพู                                         ทั้งหมดในแปลง



                                                            68
   74   75   76   77   78   79   80   81   82   83   84