Page 84 - คู่มือพืช - ไร่
P. 84
คู่มือพืชไร่ - นา
อาจติดเป็นผลได้หลายผล ให้เลือกผลที่มีก้านขั้วผลขนาดใหญ่ โรคที่ส�าคัญ
และรูปทรงผลได้รูปสม�่าเสมอทั้งผลไว้ซึ่งจะท�าให้ผลแตงโม ๑. โรคเถาเหี่ยว (ที่เกิดจากเชื้อราฟิวซาเรียม) แตงโม
มีขนาดใหญ่และมีคุณภาพสูง เพราะขนาดก้านขั้วผลมี ที่เป็นโรคนี้สีใบจะซีด ใบและเถาจะเหี่ยวจริง บริเวณโคนเถา
ความสัมพันธ์กับขนาดของผล ถ้าก้านขั้วผลใหญ่ ผลก็จะใหญ่ ที่ใกล้กับดิน จะแตกตามยาวและมีน�้าเมือกซึมออกมา เมื่อผ่า
ถ้าก้านขั้วผลเล็กก็จะเล็กการปฏิบัติต่อผลแตงโมภายหลัง ไส้กลางออกดูจะเห็นภายในเป็นสีน�้าตาล โรคนี้จะระบาดมาก
ผสมติดเป็นผลแล้วดอกตัวเมียของแตงโม ที่ได้รับการ ในช่วงแตงโมออกดอก การปลูกซ�้าที่เดิม โรคนี้จะระบาด
ผสมเกสรอย่างสมบูรณ์ก็จะเจริญเติบโตอย่างสม�่าเสมอ รุนแรงมาก
ติดต่อกันไปวันต่อวัน เมื่อผลแตงโมมีขนาดเท่ากับกะลา สาเหตุ
มะพร้าว ควรเอาฟางรองใต้ผล เพื่อไม่ให้ผิวผลสัมผัสฟางถูก เกิดจากเชื้อรา เชื้อรานี้เจริญและท�าลายแตงโมได้ดี
แสงแดดก่อนเก็บเกี่ยว ๑๐ วัน เพื่อให้ผลแตงมีสีสม�่าเสมอ ที่อุณหภูมิระหว่าง ๒๔ - ๒๘ องศาเซลเซียส ขณะแตงก�าลัง
ทั่วทั้งผล จะท�าให้แตงโมมีรสหวานมากขึ้นอีก เจริญเติบโตมีฝนตกติดต่อกันยาวนาน ดินมีธาตุไนโตรเจน
อยู่สูง แต่มีธาตุฟอสฟอรัส (P2O5) และโพแทสเซียม (K2O)
การเก็บผลแตงโม อยู่ต�่า และดินเป็นกรดจัด
แตงโมเป็นพืชชนิดหนึ่ง ที่ผลแก่แล้วไม่แสดงอาการ การป้องกัน
ว่าสุกงอกให้เห็นเหมือนผลมะเขือเทศ หรือพริก ซึ่งจะเปลี่ยน ๑. อย่าปลูกแตงโมซ�้าที่เดิม
สีเป็นสีแดง หรือไม่เหมือนกับผลมะม่วง ซึ่งทั้งเปลี่ยนสีแล้วยัง ๒. เริ่มคลุกเมล็ดพันธุ์ด้วยสารเคมีไดเทนเอ็ม-๔๕
มีกลิ่นหอมด้วย ฉะนั้นการดูว่าแตงโมแก่เก็บได้หรือยัง จึงต้อง อัตรา ๑๕ กรัม ต่อเมล็ดพันธุ์ ๑ กิโลกรัม ก่อนน�าไปปลูก
พิถีพิถันมากกว่าปกติอีกเล็กน้อยคือ ๓. ใช้ปูนขาวใส่ดินเพื่อแก้ความเป็นกรดของดิน
๑) คาดคะเนการแก่ของผลแตงโมด้วยการนับอายุ ในอัตราไร่ละ ๕๐๐ กิโลกรัม
ซึ่งขึ้นอยู่กับพันธุ์ของแตงโม ๔. ใช้สารเคมีไดเทน ที่มีความเข้มข้น ๑ : ๕ ฉีด
๑.๑ แตงโมพันธุ์เบา (ซูการ์เบบี้ ผลกลมสีเขียวคล�้า) ที่ต้นพืชจะช่วยท�าให้เชื้อโรคชะงักลง
จะแก่เก็บได้ภายหลังดอกบาน ประมาณ ๓๕ - ๔๒ วัน ๕. สารเคมีกลุ่มพีซีเอ็นบี เช่น เทอราคลอร์ในอัตรา
๑.๒ แตงโมพันธุ์หนัก (ชาร์ลสตันเกรย์ผลยาว ๖๐ ซีซี ผสมน�้า ๒๐ ลิตร ราดลงในหลุมแตงโมที่เกิดโรค และ
สีเขียวอ่อนมีลาย) จะแก่เก็บได้ภายหลังดอกบานประมาณ บริเวณข้างเคียงทุก ๗ วัน
๔๒ - ๔๕ วัน ๒. โรคเถาเหี่ยว (ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย) ลักษณะ
๒) คาดคะเนการแก่ของผล ด้วยการดูลักษณะที่พบได้ ที่มองเห็นในครั้งแรก คือ ใบในเถาจะเหี่ยวลงทีละใบ การเหี่ยว
ทั่วไปเมื่อแตงโมแก่ จะเหี่ยวจากปลายเถามาหาโคนเถาหนึ่ง เมื่อเหี่ยวมาถึงโคนเถา
๒.๑ มือเกาะที่อยู่ใกล้กับขั้วของผลมากที่สุด ก็จะเหี่ยวพร้อมกันหมดทั้งต้น แต่ใบยังคงเขียวอยู่ และพืชตาย
เปลี่ยนเป็นสีเหลืองและแห้งเป็นบางส่วนจากปลายมาหาโคน ในทันทีที่พืชเหี่ยวทั้งต้น อาจป้องกันกันและรักษาได้โดย
๒.๒ วัดความแก่อ่อนของผลแตงโมได้จากการดีด ฉีดสารเคมีเซวิน ๘๕ ป้องกันแมลงเต่าแตงและใช้ยาปฏิชีวนะ
ฟังเสียง หรือตบผลเบา ๆ ฟังเสียงดูถ้ามีเสียงผสมกันระหว่าง สเตรปโตมัยซิน เช่น อะกริมัยซิน ฉีดพ่นทุกสัปดาห์ ใช้อัตรา
เสียกังวานและเสียงทึบ แตงจะแก่พอดี (แก่ ๗๕%) มีเนื้อ ส่วนผสมตามที่แจ้งไว้ในซองบรรจุสารเคมีที่จ�าหน่าย
เป็นทรายถ้าดีดแล้วเป็นเสียงกังวานใส แสดงว่าแตงยังอ่อน ๓. โรคราน�้าค้าง ลักษณะที่มองเห็นได้ คือ เกิดจุด
อยู่ ถ้าดีดแล้วเสียงทึบเหมือนมีลมอยู่ข้างใน แตงจะแก่จัดเกินไป สีเหลืองบนหลังใบ และขยายตัวใหญ่ขึ้นจ�านวนจุดสีเหลือง
ที่ชาวบ้านเรียกว่า “ไส้ล้ม” เพิ่มปริมาณมากขึ้น และใต้ใบตรงต�าแหน่งเดียวกัน จะมีกลุ่ม
๒.๓ สังเกตนวลของผล ถ้าจางลงกว่าปกติแสดงว่า ของเชื้อราสีม่วงอมเทาเกาะกลุ่มอยู่ เชื้อโรคนี้เจริญได้อย่าง
แตงเริ่มแก่ รวดเร็วเมื่ออากาศอุ่นและชุ่มชื้น เมื่อใบแก่ตายเชื้อก็จะไปท�า
73