Page 76 - ดินและปุ๋ย
P. 76

เอกสารเผยแพร่ สทพ.นทพ. ค.27                                               คู่มือ ดิน และ ปุ๋ย



                       1. ปุ๋ยอินทรีย์มีแร่ธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โปแทสเซียม และธาตุอาหารรอง รวมถึงจุลชีพ

                ที่พอเพียงหรือพอเพียงต่อความต้องการของพืช
                       2. การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในระยะแรกอาจท�าให้พืชมีผลผลิตไม่มากนัก แต่หากใช้ในระยะยาว ผลผลิต
                พืชจะเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากปุ๋ยอินทรีย์ท�าให้คุณสมบัติของดินดีขึ้นเรื่อย ๆ

                       3. ปุ๋ยอินทรีย์ช่วยให้ความเป็นกรด - ด่างของดินมีความเหมาะสมต่อการเติบโตของพืช และ
                ช่วยให้ความเป็นกรด - ด่างเปลี่ยนแปลงได้ยากขึ้น รวมถึงช่วยในการดูดยึดธาตุอาหารไว้ในดินได้มากขึ้น

                       4. ช่วยให้อนุภาคของดินจับตัวกันเป็นก้อนหรือเม็ดดินได้ดี เนื้อดินไม่อัดตัวกันแน่น มีความ
                ร่วนซุย การถ่ายเทอากาศ การอุ้มน�้า และการไหลซึมของน�้าในดินดีขึ้น
                       5. ช่วยให้จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในดินสามารถเจริญเติบโตได้ดี เนื่องจากอินทรียวัตถุสามารถ

                เอื้อประโยชน์ และสร้างสภาวะที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต
                       6. ช่วยเพิ่มความสามารถในการย่อยสลายอินทรียวัตถุในดินให้ดีขึ้นจากปริมาณจุลินทรีย์ในดิน

                ที่เพิ่มขึ้น
                       7. เป็นปุ๋ยที่สามารถหาได้ง่าย และท�าขึ้นได้ง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน รวมถึงวัตถุดิบที่ใช้มีราคาถูก
                สามารถใช้วัตถุดิบทั่วไปตามท้องถิ่น

                       8. มีวิธีการการใส่ไม่ยุ่งยาก และไม่เป็นอันตรายหรือมีผลข้างเคียงต่อเกษตรกร
                       9. ธาตุอาหารในปุ๋ยอินทรีย์มีโอกาสสูญเสียจากการซึม การไหลบ่าของน�้า การเสื่อมสภาพ

                เนื่องจากสารอาหารหรือแร่ธาตุจะเป็นองค์ประกอบในสารอินทรีย์เหล่านั้น


                ความส�าคัญของการผลิตปุ๋ยอินทรีย์

                       ในการเพาะปลูกของเกษตรกรสิ่งที่มีความจ�าเป็นและส�าคัญที่สุดคือความอุดมสมบูรณ์ของดิน
                ความอุดมสมบูรณ์ของดินจะได้มาจากการที่มีอินทรียวัตถุสะสมอยู่ในดินอยู่มาก จุลินทรีย์ดินจะใช้

                อินทรียวัตถุเป็นสารอาหารแล้วปลดปล่อยแร่ธาตุที่จ�าเป็นให้แก่พืชในปริมาณที่พืชต้องการอย่างเพียงพอ
                ซึ่งได้แก่ ธาตุอาหารหลัก (ไนโตรเจน - N ฟอสฟอรัส - P O  และโปแทสเซียม - K O) ธาตุอาหารรอง
                                                                                   2
                                                              2 5
                (ซัลเฟอร์ แคลเซียม และแมกนีเซียม) และจุลธาตุ (แมงกานีส ทองแดง โบรอน โมลิบดีนัม เหล็ก คลอรีน
                และสังกะสี) ดังนั้น การเติมความอุดมสมบูรณ์ให้กับดินวิธีหนึ่งคือการใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยอินทรีย์
                ซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มแร่ธาตุให้กับพืชแล้ว ปุ๋ยอินทรีย์ยังช่วยลดความเป็นกรดของดินที่เกิดจาก

                การใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าหญ้าอย่างยาวนานได้อีกด้วย
                       นอกจากนี้ ในอดีตก่อนที่จะมีการผลิตปุ๋ยเคมีขึ้นในโลก เกษตรกรในประเทศไทยก็ได้มีการสร้าง
                ความอุดมสมบูรณ์ให้กับดินในการเพาะปลูกโดยการใช้มูลสัตว์ต่าง ๆ เช่น มูลโค มูลกระบือ และมูลไก่

                เป็นต้น ประเทศไทยในขณะนั้นสามารถส่งออกข้าวเป็นที่ 1 ของโลกมาโดยตลอด ทั้ง ๆ ที่ไม่มีปุ๋ยเคมีใช้
                       แต่ปัจจุบันภายหลังจากการ “ปฏิวัติเขียว” หรือการน�าปุ๋ยเคมีเข้ามาจ�าหน่ายในประเทศไทย

                ประมาณปี พ.ศ. 2503 การเกษตรกรรมของไทยก็ได้ใช้ปุ๋ยเคมี สารเคมี และยาฆ่าหญ้าอย่างหนัก




                กองบัญชาการกองทัพไทย                                    ส�านักงานทหารพัฒนา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา  69
   71   72   73   74   75   76   77   78   79   80   81