Page 79 - ดินและปุ๋ย
P. 79
คู่มือ ดิน และ ปุ๋ย เอกสารเผยแพร่ สทพ.นทพ. ค.27
2.4 ราคาแพงกว่าปุ๋ยเคมี เมื่อคิดเทียบในแง่ราคาต่อหน่วยน�้าหนักของธาตุอาหารพืช
2.5 หายาก พิจารณาในด้านเมื่อต้องการใช้เป็นปริมาณมาก
2.6 ถ้าใส่สารอินทรีย์มากเกินไป เมื่อเกิดการชะล้างจะท�าให้เกิดการสะสมของไนเตรท
ในน�้าใต้ดินซึ่งเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภคได้
2.7 การใช้สารอินทรีย์ที่สลายตัวยาก เช่น ขี้เลื่อย เมื่อใช้วัสดุคลุมดิน ถ้าใช้ขี้เลื่อยสดใส่
ทับถมกันแน่นจะท�าให้เกิดการหมักในสภาพไร้ออกซิเจน ท�าให้อุณหภูมิสูงมาก จนเกิดสารสีด�าหรือ
น�้าตาล ในสภาพนี้ขี้เลื่อยจะอิ่มตัวไปด้วยสารพิษซึ่งเป็นกรดอินทรีย์ชนิดระเหยง่าย มีกลิ่นฉุนมาก และ
เกิดไอที่มีฤทธิ์กัดกร่อน ท�าให้เป็นอันตรายแก่พืชหลายชนิดได้ อย่างไรก็ตาม ขี้เลื่อย เปลือกไม้สามารถ
น�ามาใช้ได้โดยใช้ในดินที่ไม่เป็นกรดจัดเกินไป และมีปุ๋ยไนโตรเจนเพียงพอ ควรเป็นขี้เลื่อยเก่าที่ย่อยแล้ว
หรือปล่อยให้ตากแดดตากฝนระยะหนึ่ง การใช้ปูนขาวควบคู่ไปด้วยในปริมาณที่พอเหมาะจะช่วยลด
ความเป็นพิษลงได้
2.8 มูลสัตว์ที่ไม่ผ่านการหมักหรือการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนก่อนจะมีโรค แมลงศัตรูพืชและ
วัชพืชติดมาด้วย ท�าให้เกิดปัญหาการแพร่ระบาดภายหลังได้
2.9 ปุ๋ยอินทรีย์สลายตัวอยาก เช่น ขี้เลื่อย ซึ่งมีอัตราส่วนของคาร์บอนต่อไนโตรเจนสูงเมื่อ
ใส่ในดินปลูกพืชจุลินทรีย์จะแย่งไนโตรเจนในดินไปใช้ในขบวนการย่อย มีผลท�าให้พืชขาดไนโตรเจน
ชั่วคราว ถ้าไม่มีการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนพืชจะขาดจนกว่าจุลินทรีย์เหล่านี้จะมีกิจกรรมลดลง จึงจะได้
ไนโตรเจนกลับคืนสู่ดิน
2.10 ปุ๋ยอินทรีย์จากมูลสัตว์และวัสดุเหลือทิ้งจากโรงงาน ส่งกลิ่นเหม็นไม่เป็นที่จูงใจผู้ใช้
และสกปรก
2.11 การใช้ปุ๋ยอินทรีย์จากของเหลือทิ้งจากท่อระบายน�้าโสโครกตามอาคารบ้านเรือน
ก่อให้เกิดการปนเปื้อนของโลหะหนักหลายชนิดที่เป็นพิษ เช่น ตะกั่ว, ปรอท
2.12 การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ยังสลายตัวไม่เต็มที่หรือยังอยู่ระหว่างการย่อยสลายจะท�าให้เกิด
ความร้อนจากการย่อยสลายเป็นอันตรายต่อรากพืช เช่น การใช้มูลสด ๆ ใส่ใกล้โคนปลูกพืช และ
การใช้มูลที่มีทั้งอุจจาระและปัสสาวะสัตว์ปนโดยไม่มีการเจือจาง จะท�าให้ต้นพืชเหี่ยวเฉาได้เนื่องจาก
ความเค็มของกรดในน�้าปัสสาวะ
2.13 ต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการขนย้ายและการใส่มากกว่า
72 ส�านักงานทหารพัฒนา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย