Page 70 - คู่มือพืช - ไร่
P. 70
คู่มือพืชไร่ - นา
๖. การดูแลรักษา ในวันปลูกการฉีดสารเคมีป้องกัน การป้องกันโรคนี้กระท�าโดยฉีดด้วยสารเคมี
การงอกวัชพืช เช่น อะลาคลอร์ ซึ่งลงทุนเพียงไร่ละ ๔๐ - ๕๐ ป้องกันเชื้อรา เนื่องจากโรคนี้อาจติดมากับเมล็ดก็ได้ ดังนั้น
บาท ถ้าไม่มีการฉีดยาเพื่อป้องกันหรือปราบวัชพืช เมื่อถั่วเขียว ควรระวังไม่ใช้เมล็ดจากแปลงที่เป็นโรค การค้นคว้าเพื่อผลิต
อายุได้ราว ๑๒ - ๑๕ วัน ก็ท�าการพรวนดินเพื่อปราบวัชพืช พันธุ์ต้านโรคนั้นก�าลังกระท�ากันอยู่ในปัจจุบัน
ครั้งแรก หลังจากนั้นราว ๒ อาทิตย์ ก็ปราบวัชพืชครั้งที่ ๒ เป็น ๑.๒ โรคราแป้ง (powdery midew) เกิดจาก
ครั้งสุดท้าย เพราะถั่วเขียวจะมีกิ่งใบแผ่คลุมแปลงป้องกันวัชพืช เชื้อรา Erysiphe polygoni ชอบระบาดในหน้าแล้งใน
ไปในตัว โดยทั่วไปแล้วเกษตรกรไม่ก�าจัดวัชพืช ถ้าถั่วเขียว ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ พบระบาดทั่วไปใน
เริ่มออกดอกไม่สมควรท�าการเขตกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น เราอาจ ประเทศไทย ไต้หวัน และฟิลิปปินส์ ถั่วเริ่มเกิดโรคตั้งแต่เริ่ม
สรุปการเจริญเติบโตของถั่วเขียวได้ดังนี้ งอกแต่รุนแรง เมื่อถั่วเขียวเริ่มออกดอก และโรคจะลายไป
๑. ปลูกแล้วจะออกภายใน ๕ วัน จนถึงระยะฝักแก่ โรคนี้อาจท�าลายตรงส่วนใดก็ได้นอกจาก
๒. เริ่มออกดอกเมื่อมีอายุประมาณ ๓๑ - ๓๔ วัน ราก แต่เริ่มท�าลายที่ใบก่อนต่อจากนั้นก็ลุกลามไปตามส่วน
๓. เริ่มมีฝักอ่อนเมื่ออายุ ๓๕ วัน อื่น ๆ ของต้น เมื่อเริ่มท�าลายจะมีจุดแผลสีเทาบนใบตามจุด
๔. ฝักเริ่มแก่เมื่ออายุ ๕๕ วัน แผลเหล่านี้จะมีสีขาวคล้ายแป้งในระยะต่อมา ถ้าเกิดในระยะ
๕. ฝักแก่เริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุ ๗๐ วัน พันธุ์ ต้นอ่อนใบร่วงเมื่อโรคนี้ระบาดจะท�าให้ผลผลิต ๒๐ - ๔๐%
ปัจจุบันนี้เก็บเกี่ยว ๒ ครั้ง ครั้งสุดท้ายเมื่ออายุ ๗๕ - ๘๐ วัน ปัจจุบันยังไม่มีพันธุ์ต้านทานโรคนี้โครงการปรับปรุงพันธุ์
การดูแลรักษาอื่น ๆ ที่จ�าเป็นมากคือคอยดูแลเรื่อง ถั่วเขียวของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้พบสายพันธุ์
โรค-แมลง ซึ่งจะได้กล่าวถึงในตอนเกี่ยวกับโรคแมลงต่อไป ซึ่งก�าลังอยู่ในขั้นทดสอบ
๗. การเก็บเกี่ยว เมื่อฝักแก่จะมีสีเทาด�าหรือน�้าตาล ๑.๓ โรคเน่าคอดิน (damping-off) เกิดจาก
เนื่องจากฝักถั่วเขียวสุกไม่พร้อมกันดังนั้นจึงต้องทยอยเก็บ เชื้อรา Rhizoctonia solani หรือ Pythium sp. โรคนี้
คือเก็บเกี่ยวประมาณ ๒ - ๓ ครั้ง จึงหมด การเก็บเกี่ยวครั้งแรก เข้าท�าลายรากเมื่อยังเป็นกล้าอ่อน ระบาดมากเมื่อมีอากาศ
เริ่มเก็บเมื่อฝักประมาณ ๒ ใน ๓ ของทั้งหมดเป็นสีด�า เย็นท�าให้มีแผลสีน�้าตาลที่รากและล�าต้นใต้ผิวดินโรคนี้
อย่าปล่อยไว้เพราะฝักถั่วแตกเมล็ดร่วง ผลผลิตเสียหาย สามารถอยู่ในดินได้นาน สามารถเข้าท�าลายพืชได้หลายชนิด
เมื่อเก็บมาแล้วก็น�าฝักมาตากให้แห้ง แล้วนวดโดย ที่ปลูกในบริเวณนั้น ดังนั้นการก�าจัดโดยการปลูกพืชหมุนเวียน
น�าฝักใส่กระสอบทุบด้วยไม้เมล็ดก็จะหลุดออกจากฝักได้ง่าย มักไม่ได้ผล โรคเน่าคอดินของถั่วเขียว มีอาการคล้ายกับพืช
ต่อจากนั้นก็ท�าความสะอาดแยกเอาเฉพาะเมล็ด ถูกท�าลายโดยหนอน แมลงวันเจาะต้นถั่ว (bean fly)
๑.๔ โรครากเน่า (root rot) เกิดจากเชื้อราหลาย
ศัตรูของถั่วเขียว ชนิด ได้แก่ Fusarium solani f. sp. Phaseoli, Pythium
๑. โรค โรคที่พบทั่วไป ได้แก่ aphanidermatum, Pythium ultimun และ Rhizocto-
๑.๑ โรคใบจุด (cercospora leaf spot) โรคนี้ nia solani เชื้อหนึ่งเชื้อใดอาจเข้าท�าลายหรือหลายเชื้อเข้า
เกิดจากเชื้อรา Cerospora canescen ซึ่งระบาดโดยสปอร์ ท�าลายก็ได้โรคเหล่านี้เกิดขึ้นบริเวณราก บางเชื้อท�าให้เกิดแผล
ที่ปลิวมาในอากาศ พบเกิดกับถั่วเขียวที่ปลูกทุกแห่งในประเทศ ที่ต้นและท�าให้ต้นเหี่ยวได้ด้วย
และเอเชียระบาดมากในการปลูกในฤดูฝนการระบาดจะเริ่ม ๑.๕ โรคเน่าด�า เกิดจากเชื้อรา Macrophomina
เมื่อถั่วเขียวมีอายุได้ราว ๑ เดือน และจะเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย phaseolina พบระบาดมากในช่วง ๕ - ๖ ปีมานี้ เข้าท�าลาย
ลักษณะอาการของโรคจะเป็นจุดที่ใบ จุดมีสีน�้าตาล ถ้าเป็น ถั่วเขียวได้ทุกระยะ ถั่วเขียวใบสีเหลืองซีดมากกว่าปกติ อาการ
รุนแรงก็จะท�าให้ใบร่วง ถั่วเขียวพันธุ์ก�าแพงแสน ๒ และ มอ ๑ ที่ใบจะเหี่ยว ขอบใบแห้งเป็นวงกว้าง ถั่วเขียวยืนต้นตาย ควร
ต้านทานต่อโรคนี้พอสมควร คลุกเมล็ดด้วย benomyl, thaibendazone ก่อนปลูก
59