Page 65 - คู่มือพืช - ไร่
P. 65
คู่มือพืชไร่ - นา
กับการลงทุนลงแรง ในกรณีที่ไม่มีการฉีดยาป้องกันวัชพืชใน การป้องกันกระท�าโดยฉีดยาเคมีป้องกันหลังปลูก
วันปลูก เกษตรกรอาจจ�าเป็นต้องปราบวัชพืชถึง ๓ - ๔ ครั้ง ราว ๒๕ - ๓๐ วัน โดยใช้ Manzate D 80 ๔๕ - ๖๐ กรัม/
การศึกษาพบว่า การใช้สารเคมีบางชนิดเพื่อควบคุมวัชพืชหลัง น�้า ๒๐ ลิตร หรือ Zined ฉีด ๖๐ กรัม/น�้า ๒๐ ลิตร ฉีดทุก
งอก (post-emergence) ยังไม่ค่อยได้ผล ๑๕ วัน ถึงแม้ไม่พบโรคก็ตาม หยุดฉีดเมื่อถั่วเหลืองติดฝักแล้ว
ถั่วเหลืองเป็นพืชที่อ่อนแอขาดน�้าไม่ได้ การให้น�้าหนัก วิธีป้องกันอีกวิธีหนึ่ง คือ ใช้พันธุ์ต้านทานหรือทนทานต่อโรค
ต้นแห้ง และเมล็ดแต่ละ กก. นั้น ต้องการน�้าถึงกว่า ๖๐๐ เช่น สจ.๔ และ สจ.๕ เป็นต้น ในปัจจุบันยังไม่มีพันธุ์ต้านทาน
ลิตร ในขณะที่ข้าวโพดต้องการเพียงราว ๓๕๐ ลิตรเท่านั้น ต่อโรคนี้อย่างแท้จริง
นอกนั้นการให้น�้าต้องสม�่าเสมอตลอดฤดูปลูก ถ้าอากาศร้อน ๘.๒ โรคแอนแทรกโนส (anthracnose)
ถั่วเหลืองไม่ควรจะขาดน�้าเกิน ๑๐ วัน การขาดน�้าในช่วง เกิดจากเชื้อรา Colletotrichum dematium
ออกดอกหรือในช่วงที่ฝักก�าลังเจริญท�าให้ผลผลิตลดลง f. truncatum เมื่อระบาดแล้วจะรุนแรงพอ ๆ กับโรคราสนิม
อย่างมาก การปลูกในหน้าแล้งควรได้มีการระบายน�้าเข้าแปลง พบอาการบนใบเป็นจุดแผลสีน�้าตาลเข้ม จุดแผลค่อนข้างโต
ทุก ๆ ๗ - ๑๐ วัน โดยที่ไม่ปล่อยน�้าเข้ามากจนท่วม เมื่อน�้าท่วม ๒ - ๑๐ มม. นอกนั้นพบที่กิ่ง ล�าต้น ที่ฝักก็มีแผลสีน�้าตาล
แปลงก็ควรระบายออกในเวลาไม่เกิน ๔ วัน แต่เมื่อถั่วเหลือง จนด�าเป็นวง ๆ เมล็ดลีบย่นเสียหายวิธีการป้องกันที่พอ
ต้นโตแล้วจะทนต่อน�้าขังมากขึ้น จะทราบตอนนี้คืิอ ไม่ปลูกถั่วเหลืองซ�้าในแปลงที่เคยเป็นโรค
และหลีกเลี่ยงการใช้เมล็ดพันธุ์จากต้นหรือแปลงที่เป็นโรค
โรคถั่วเหลือง การฉีดยาเคมีใช้ Benomyl 50% W.P. และ Manzate-D
โรคของถั่วเหลืองมีมากมายหลายชนิด แต่ละชนิด 80% W.P.
แสดงผลอย่างรุนแรงเป็นแห่ง ๆ ไป คือ บางโรครุนแรงที่หนึ่ง ๘.๓ โรคแบคทีเรียลไบลท์ (bacterial blight)
แต่ไม่รุนแรงในอีกที่หนึ่ง การระบาดของโรคบางชนิดจัดว่า เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Pseudomonas gly-
เป็นอุปสรรคส�าคัญของการขยายการปลูกถั่วเหลืองใน cinea Coerper โรคนี้ระบาดอย่างกว้างขวาง พูดได้ว่า พบใน
ประเทศไทย ตราบใดที่มิได้มีการแก้ปัญหาเกี่ยวกับโรคแล้ว ทุกแห่งที่ปลูกถั่วเหลือง แต่อาจจะรุนแรงหรือไม่รุนแรงก็ได้
เกษตรกรมีความลังเลใจที่จะหันมาปลูกพืชชนิดนี้และหันไป จะรุนแรงเมื่ออากาศเย็นและฝนชุก พบเป็นจุดเหลี่ยมเล็ก ๆ
ปลูกพืชอื่น ๆ ที่มีปัญหาน้อยกว่า การที่จะพูดถึงโรคทุกชนิด และ บนใบจุดมีสีน�้าตาลอยู่ระหว่างเส้นใบ เป็นที่น่าสังเกตว่าถั่วเหลือง
พูดอย่างละเอียดนั้นอาจจะยืดยาวเกินไป จึงขอกล่าวโดยสรุป พันธุ์ที่ินิยมปลูกในประเทศไทย (สจ.๑, สจ.๒, สจ.๔) เป็นโรคนี้
ถึงโรคส�าคัญ ๆ ที่ระบาดแล้วมีผลท�าลายรุนแรงหรือค่อนข้าง เสมอ แต่โดยทั่วไประบาดไม่รุนแรง หรือก่อผลเสียหายเพียง
รุนแรงดังนี้ เล็กน้อย การป้องกันแนะน�าให้ใช้เมล็ดที่ปลอดโรคนี้ เพราะ
๘.๑ โรคราสนิม (rust) เชื้อโรคนี้ติดมากับเมล็ดพันธุ์ (seedborne) นอกนั้นก็ใช้พันธุ์
เกิดจากเชื้อรา Phakopsora pachyrhizi syd. ต้านทาน
ระบาดทุกประเทศในแถบร้อน แต่ไม่พบระบาดในสหรัฐ ๘.๔ โรคแบคทีเรียลพัสตูล หรือโรคใบจุดนูน (bac-
อเมริกา ในประเทศไทยพบทุกแห่งที่มีการปลูกถั่วเหลือง terial pustule)
อย่างไรก็ดีบางปีอาจไม่ปรากฏก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชื้น เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Xanthomonas pha-
และอุณหภูมิ ถ้าความชื้นสูง และอุณหภูมิสูงก็ระบาดรุนแรง seoli var.sojensis (Hedges) อาการเป็นจุดกลมเล็ก ๆ
อาการเริ่มเป็นที่ใบล่างเมื่อถั่วเหลืองเริ่มออกดอก สีน�้าตาลแดง มีขอบนอกเป็นสีเหลืองแกมเขียวปรากฏบนใบ
หรือก่อนออกดอกเล็กน้อย แล้วลามขึ้นใบบนเมื่อเริ่มเป็น แผลมีลักษณะนูนทางใต้ใบเรียกพัสตูล (pustule) โรคนี้
จะปรากฏเป็นจุดสีน�้าตาลเล็ก ๆ ใต้ใบ จุดค่อย ๆ เพิ่มขึ้น มีการระบาดอย่างกว้างขวางทุกแห่งและทุกประเทศที่ปลูก
จุดนี้มีลักษณะและสีคล้ายสนิมเหล็กเมื่อเป็นมากใบก็จะร่วง ถั่วเหลือง แต่ก็ท�าความเสียหายเพียงเล็กน้อย การป้องกัน
ถ้าเหลืองเป็นโรคนี้ให้ฝักลีบ เมล็ดเล็ก กระท�าโดยใช้พันธุ์ต้านทาน พันธุ์ Clark 63 และ Orba ทนทาน
ต่อโรคนี้เป็นอย่างดีการป้องกันโดยการฉีดยามักไม่ได้ผล
54