Page 62 - คู่มือพืช - ไร่
P. 62

คู่มือพืชไร่ - นา




              ของดิน) ควรแบ่งใส่ปุ๋ยนี้สองครั้งคือหว่านก่อนปลูก หรือ
              หลังปลูกเล็กน้อย และหว่านก่อนออกดอกอีกครั้งหนึ่ง เมื่อมี
              การคลุกเชื้อแล้วมีการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนมาก ๆ ก็ท�าให้มีปมน้อย
              หรือมีขนาดเล็ก และถ้าใส่ปุ๋ยไนโตรเจนเพิ่มเติมหลังจากที่ปม

              ถั่วเหลืองเริ่มตรึงไนโตรเจนแล้วก็จะไม่มีผลต่อการเพิ่มผลผลิต
              ของถั่วเหลือง
                    ธาตุ P มีความจ�าเป็นส�าหรับการเจริญเติบโตของถั่ว

              เหลือง เพิ่มเปอร์เซ็นต์น�้ามัน เพิ่มจ�านวนปมที่ราก ท�าให้เชื้อ
              ไรโซเบียมตรึงไนโตรเจนจากอากาศได้ดี ปกติแล้วถั่วเหลือง  นอกนั้นดิน pH 6.0 - 7.0 เหมาะต่อการพัฒนาของปมถั่วเหลือง
              ต้องการธาตุนี้เป็นจ�านวนมาก และมีการใช้ตลอดอายุของ   ก่อนที่จะท�าการปลูกถั่วเหลือง (หรือพืชอื่น ๆ) ก็ควรส่งตัว
              ถั่วเหลืองทีเดียว ดินในประเทศไทยมักมีธาตุนี้ต�่า ควรใส่ P   อย่างดินไปให้หน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องในทางนี้ท�าการ
              ในรูปปุ๋ยผสม หรือในรูปหินฟอสเฟต (rock phosphate)   วิเคราะห์ตรวจสอบคุณสมบัติของดินเสียก่อน ผู้วิเคราะห์

              ส�าหรับธาตุ K ก็จ�าเป็นส�าหรับถั่วเหลืองมากเช่นกัน ช่วยท�าให้  จะให้ค�าแนะน�าอย่างดีถึงวิธีการปรับปรุงดินและปรับสภาพ
              ถั่วเหลืองติดปมดีขึ้น เพิ่มจ�านวนฝัก เพิ่มจ�านวนเมล็ด เมล็ด   ของดินก่อนการเพาะปลูก ในสมัยปัจจุบันกสิกรควรที่จะรู้
              มีน�้ามันเพิ่มขึ้น                               ธรรมชาติและลักษณะของสินค้าเองทุก ๆ ราย

                    สูตรปุ๋ยซึ่งกรมวิชาการเกษตรนิยมใช้ในการทดลอง      ๗.๓ ฤดูปลูก ฤดูปลูกของถั่วเหลืองในประเทศไทย
              โดยทั่วไปคือ 3-9-6 N, P2O5, K2O กก./ไร่ ในกรณีของ N    มี ๒ ฤดู คือ ฤดูฝน และฤดูแล้ง (ถ้ามีการชลประทานหรือ
              นั้นจ�าเป็นต้องเพิ่มขึ้นกว่านี้ถ้าไม่มีการคลุกเชื้อไรโซเบียม   สามารถรดน�้าได้) วันปลูกในฤดูฝนนั้นแตกต่างกันไปตามภาค
              ที่ใส่ปุ๋ยสูตรอื่น ๆ ก็อาจใช้สูตร ๑๕-๑๕-๑๕, ๑๒-๒๔-๑๒,   ต่าง ๆ ของประเทศ แต่ก็อยู่ระหว่างเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม
              ๑๖-๒๐-๐ อัตรา ๒๕ - ๓๐ กก./ไร่ ถ้าใส่หินฟอสเฟต    นั่นเองการเลือกวันปลูกนั้น ประมาณว่า ให้ถั่วเหลืองสุก

              ก็ใช้ ๑๐๐ - ๑๕๐ กก./ไร่                          และเก็บเกี่ยวได้ในช่วงที่หมดฝนพอดี มิฉะนั้นเมล็ดถั่วจะเน่า
                    นอกจากธาตุที่ส�าคัญ ๆ ดังกล่าวแล้ว ถั่วเหลืองยัง ขึ้นรา นวดล�าบาก ในภาคใต้ถ้าปลูกถั่วเหลืองหลังนาควรปลูก
              ต้องการธาตุเสริมและธาตุรอง (secondary and micro- ในเดือนเมษายน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น มักมีระยะ

              nutrients) อีกหลายชนิด ธาตุเหล่านี้ ได้แก่ แคลเซียม (Ca),  ที่ฝนทิ้งช่วงประมาณ ๑๕ - ๒๐ วัน ในปลายเดือนมิถุนายน
              แมกนีเซียม (Mg), ก�ามะถัน (S), เหล็ก (Fe), แมงกานีส  หรือต้นกรกฎาคม ดังนั้นควรปลูกถั่วเหลืองหลังจากช่วงนี้
              (Mn), โมลิบดีมัน (Mo) และสังกะสี (Zn) ธาตุเหล่านี้ส่วนมาก     ในฤดูแล้งส่วนมากเป็นการปลูกถั่วเหลืองในนาข้าว ใน
              ต้องการเป็นจ�านวนน้อยการตรวจสอบความขาดแคลนเต็มไป  กรณีเช่นนี้ก็อาจปลูกถั่วเหลืองได้ทันทีภายหลังเก็บเกี่ยวข้าว
              ด้วยความยากล�าบากแต่ถ้าขาดแคลนแล้วจะท�าให้ผลผลิต โดยทั่วไปแล้วปลูกกันในราวเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์
              ของถั่วเหลืองลดลงเช่นกัน เช่น ในการทดลองที่จังหวัดเลย     ๗.๔ พันธุ์ที่ใช้ปลูก แต่ก่อนนั้นพันธุ์ที่ใช้ปลูกเรียกว่า

              และเชียงราย มีการพบว่า ถ้ามีการใส่โมลิบดีนัมแล้ว ท�าให้  พันธุ์พื้นเมืองเป็นพันธุ์ที่ปลูกในแต่ละท้องถิ่นเป็นเวลานาน
              ผลผลิตของถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น ๓๐ - ๕๐ เปอร์เซ็นต์  หรือเป็นพันธุ์ที่คัดเลือกขึ้นในท้องถิ่นนั้น ๆ เช่น พันธุ์แม่ริม

                    การใส่ปูนขาวเพื่อปรับสภาพของดินนับว่าจ�าเป็นมาก   พันธุ์สันป่าตอง ต่อมาทางกรมกสิกรรม (กรมวิชาการเกษตร)
              ส�าหรับดินเป็นกรดหรือดินเปรี้ยว ทั้งนี้เพราะการดูดธาตุ  ได้ท�าการผสมและคัดเลือกพันธุ์ใหม่ ๆ ขึ้นมา คือ สจ.๑,
              อาหารต่าง ๆ ของถั่วเหลืองไปจากดินมีความสัมพันธ์กับ pH   สจ.๒, สจ.๔ และ สจ.๕ พันธุ์ที่นิยมปลูกกันมากในปัจจุบัน
              ของดินอย่างมาก ถ้าดินมี pH 6.0 - 7.0 ก็มีการใช้ธาตุอาหาร  คือ  สจ.๔  และ  สจ.๕  เป็นพันธุ์ที่ต้านทานโรคราสนิม
              พวก P, K และอื่น ๆ ได้ดี ถ้าต�่ากว่านี้ธาตุอาหารจะถูกตรึงไว้   ได้ดี นอกจากพันธุ์เหล่านี้แล้วพันธุ์ที่เผยแพร่ใหม่ ๆ คือ พันธุ์
                                                               นครสวรรค์ ๑, สุโขทัย ๑ และเชียงใหม่ ๖๐




                                                            51
   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67