Page 100 - คู่มือพืช - ไร่
P. 100
คู่มือพืชไร่ - นา
การป้องกันก�าจัด ทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยของเพลี้ยจักจั่นสีเขียวจะดูดกลิ่น
๑. ใช้พันธุ์ต้านทาน เช่น ขาวดอกมะลิ ๑๐๕ น�้าเลี้ยงที่ใบและกาบใบข้าว ท�าให้ต้นข้าวเจริญเติบโตช้า ต้นข้าว
กข ๖ กข ๘ และ กข ๑๕ เตี้ยใบเหลือง นอกจากจะท�าลายข้าวโดยตรงแล้ว เพลี้ยจักจั่น
๒. ถ้าการปลูกข้าวมีปัญหาเกิดเป็นประจ�า สีเขียวยังเป็นพาหนะน�าโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสและไมโค
ควรหันไปปลูกพืชหมุนเวียนอยู่เรื่อย ๆ พลาสม่า เช่น โรคใบสีส้ม โรคเหลืองเตี้ยและโรคหูดมาสู่ต้นข้าว
๓. ควรไถตากดินหลาย ๆ ครั้งก่อนปลูกเพื่อ ได้อีกด้วย การแพร่กระจายของเพลี้ยจักจั่นสีเขียวเป็นไปได้
ลดปริมาณของไส้เดือนฝอย รวดเร็วเพราะดังแก่มีนิสัยของเคลื่อนย้ายไม่อยู่เป็นกลุ่มก้อน
๔. การใช้สารเคมีพวก carbofuran เช่น ช่วงที่พบแมลงนี้มากนักจะเป็นฤดูฝน
furadan 3% g จะช่วยลดปริมาณของไส้เดือนฝอยได้บ้าง แต่ การป้องกันจ�ากัด
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ปลูกพันธุ์ข้าวต้านทาน, ติดไฟล่อแมลงตัวแก่แล้ว
จับท�าลาย, ก�าจัดวัชพืช เนื่องจากหญ้าหลายชนิด เช่น ข้าว
แมลงศัตรูข้าว ป่า หญ้านกสีชมพู หญ้าแพรก และใช้สารฆ่าแมลง ได้แก่
๑. เพลี้ยไฟ (Rice Thrips) Stenchaetothrips MIPC เช่น Mipcin 50% WP. Hopsin 50% EC Carbaryl
biformis (Bagnall) เช่น Sevin 58% WP. ในอัตราส่วน ๔๐ กรัม หรือซีซีต่อน�้า
รูปร่างลักษณะและการท�าลาย เพลี้ยไฟ เป็นแมลง ๒๐ ลิตร หรือระบุไว้ในที่สลากยา
ที่มีขนาดเล็กล�าตัวยาวประมาณ ๑ - ๒ มม. ตัวแก่มีสีด�า อาจจะ ๓. เพลี้ยจักจั่นปีกลายหยัก (Zigzag Leaf Hopper)
มีปีกหรือไม่มีก็ได้ ส่วนตัวอ่อนมีสีเหลืองนวล การท�าลายข้าว Recilia dorsalis Motschulsky
โดยดูดกินน�้าเลี้ยงจากใบข้าว ในระยะแรกจะเห็นเป็นรอย รูปร่างลักษณะและการท�าลาย เป็นแมลงขนาดเล็ก
ซีดขาวเป็นแถบ ๆ ต่อมาใบข้าวจะเริ่มเหลืองและแห้งจาก สีขาว ตัวเต็มวัยมีขนาด ๓.๕ - ๔.๐ มม. มีลายหยักเป็นทาง
ปลายใบเข้ามาใบข้าวอาจจะม้วนตามความยาวเข้ามาหาเส้น สีน�้าตาลพาดที่ปีกทั้ง ๒ ข้าง ตัวอ่อนมีสีน�้าตาลแถบเหลือง
กลางใบ ต้นข้าวอายุน้อย ๆ อาจแห้งตายได้ การระบาดจะ ขนาด ๑ - ๓ มม. ลักษณะการท�าลายและการแพร่ระบาด
รุนแรงมากขึ้นเมื่อมีอากาศแห้งแล้ง ฝนทิ้งช่วงความเสียหาย พบทั่วไปเช่นเดียวกับจักจั่นสีเขียว ดูดกินน�้าเลี้ยง เพลี้ยจักจั่น
จะเกิดกับต้นข้าวในระยะกล้ามากกว่าระยะอื่น แต่ในบางครั้ง ปีกลายหยักก็เป็นตัวน�าโรคที่ส�าคัญมาสู่ต้นข้าวเช่นกัน ได้แก่
อาจพบเพลี้ยไฟนี้ไปดูดกินข้างในระยะออกดอกท�าให้เมล็ด โรคใบสีส้ม ใบสีแสด
ข้าวลีบได้ การป้องกันก�าจัด
การป้องกันก�าจัด เช่นเดียวกับเพลี้ยจักจั่นสีเขียว แต่ยังไม่มีพันธุ์ข้าว
๑. ในแปลงกล้า ซึ่งควบคุมน�้าได้ เมื่อพบว่ามีแมลง ที่ต้านทานต่อแมลงชนิดนี้
เข้าท�าลาย ซึ่งอาจจะดูได้จากรอยซีดขาวบนใบหรือใช้มือ ๔. เพลี้ยกระโดดสีน�้าตาล (Brown Planthopper)
จุ่มน�้าแล้วลูบไปมาบนใบข้าวจะเห็นมีแมลงเพลี้ยไฟตัวเล็ก ๆ Nilaparvuta lugens
ติดมือ ให้ไขน�้าท่วมยอดข้าว ๑ - ๒ วัน จึงเอาน�้าออกใส่ปุ๋ย รูปร่างลักษณะและการท�าลาย เป็นแมลงขนาดเล็ก
ไนโตรเจนเร่งการเจริญเติบโต สีน�้าตาลขนาดของตัวเมียยาว ๓.๕ มม. อาจมีปีกยาวปีกสั้น
๒. ในแปลงข้าว ซึ่งไม่สามารถควบคุมน�้าได้ให้ใช้ ลักษณะการท�าลาย ทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยชอบดูดกิน
สารฆ่าแมลงฉีดพ่นเมื่อพบการท�าลาย น�้าเลี้ยงจากกาบใบบริเวณโคนต้นเหนือระดับ ตั้งแต่ในระยะ
๒. เพลี้ยจักจั่นสีเขียว (Green Rice Leaf Hopper) ข้าวแตกกอจนถึงออกรวง ท�าให้ต้นข้าวชะงักการเจริญเติบโต
รูปร่างลักษณะและการท�าลาย ตัวเต็มวัยเป็น ถ้าปริมาณของแมลงมีมากต้นข้าวจะแสดงอาการใบเหลือง
แมลงตัวเล็กๆ มีลักษณะคล้ายจักจั่น มีขนาด ๓ - ๕ มม. ปีก และเหี่ยวแห้งตายไป มีลักษณะคล้ายถูกน�้าร้อนลวกเรียกว่า
มีสีเขียวและมีจุดสีด�า ที่ปลายปีกข้างละจุด การเข้าท�าลาย hopper burn ความรุนแรงของการท�าลายนี้มักจะเกิดใน
89