Page 99 - คู่มือพืช - ไร่
P. 99
คู่มือพืชไร่ - นา
ลักษณะอาการ อาการที่เริ่มพบเห็นก็คือ เกิด Malathion 57% EC, BPMC เช่น Bassa 50% EC Hopsin
แผลเป็นรอยขีดช�้า ๆ ตามทางยาวของใบ ต่อมาแผลจะกลาย 50% EC เป็นต้นใช้พ่นหลังจากตกกล้าแล้ว ๑๐ วัน และฉีด
เป็นสีเหลืองเมื่อส่องดูกับแสงแดดจะเห็นมีลักษณะโปร่งแสง อีกทุก ๗ วัน ๒ - ๓ ครั้ง
พันธุ์ข้าวที่ไม่ต้านทาน ผลจะขยายตามความยาวของใบ ๓.๒ โรคใบสีแสด (Orange Leaf)
ติดต่อกันท�าให้ใบข้าวแห้งตายได้ บางครั้งแผลอาจจะขยายถึง สาเหตุ เกิดจากเชื้อไมโคพลาสม่า
กาบใบ เชื้อแบคทีเรียสามารถเข้าไปในใบข้าวได้ทางปากใบ ลักษณะอาการ ใบของต้นข้าวที่เป็นโรคจะมี
(stomata) และแพร่กระจายติดต่อไปยังต้นอื่น ๆ ได้โดยทางลม สีแสดปนส้มทั้งใบยกเว้นเส้นกลางใบ เริ่มจากใบล่าง ๆ ต่อมา
และฝน การใส่ปุ๋ยไนโตรเจนอัตราสูง และการปลูกข้าวหนา ใบข้าวจะม้วนจากขอบใบเข้าหาเส้นกลางใบ ต้นข้าวมักจะไม่
แน่นมาก เป็นสาเหตุให้การระบาดของโรครุนแรงมาก แตกกอและแห้งตายใบ โดยเฉพาะเมื่อเชื้อเข้าท�าลายต้นข้าว
การป้องกันและก�าจัด เช่นเดียวกับโรคขอบ อายุน้อย ๆ การแพร่กระจายของโรคเกิดจากมีเพลี้ยจักจั่น
ใบแห้ง ปีกลายหยักเป็นตัวน�าโรค
๓. โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสและไมโคพลาสม่า (Virus การป้องกันก�าจัด
and Mycophasma) ๑. ก�าจัดวัชพืชซึ่งเป็นแหล่งอาศัยที่ดีของ
๓.๑ โรคใบสีส้ม (Yellow Orange Leaf) เชื้อโรคและแมลงพาหะ
สาเหตุ เกิดจากเชื้อไวรัสรูปทรงกลม (Poly- ๒. ใช้สารฆ่าแมลงเช่นเดียวกับโรคใบสีส้ม
hedral) มีเส้นผ่าศูนย์กลาง ๓๐ - ๓๕ มิลลิเมตร บางครั้งพบว่า ๔. โรคข้าวเกิดจากไส้เดือนฝอย
มีอนุภาครูปร่างแท่งสั้น (Bacilliform) ขนาด ๒๕ - ๑๔ มิลลิเมตร ไส้เดือนฝอยที่ท�าให้เกิดโรคข้าว แบ่งออกได้ตาม
ลักษณะอาการ ลักษณะอาการที่เห็นในระยะ ลักษณะการท�าลายเป็น ๓ ชนิด คือ
กล้าและแตกกอก็คือ ใบข้าวจะมีสีเหลือง หรือเหลืองปนส้ม ก. ไส้เดือนฝอยท�าลายระบบราก ไส้เดือนฝอยพวก
เริ่มจากปลายใบเข้าหาโคนใบ เมื่อส่องดูกับแสงแดดจะเห็น นี้จะเข้าท�าลายที่รากข้าว ได้แก่ Meloidogyne graminicola
บางส่วนมีลักษณะด่างเขียวปนเหลือง ใบข้าวที่แตกมาใหม่ ซึ่งท�าให้เกิดโรครากเน่า
จะสั้นต้นข้าวเตี้ยแคระ ข้าวจะตั้งท้องและออกรวงไม่สม�่าเสมอ ข. ไส้เดือนฝอยท�าลายใบ ได้แก่ Aphelenchoides
และมักพบว่ามีโรคใบจุดสีน�้าตาล เข้าท�าลายมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งท�าให้เกิดโรคปลายใบขาวในจ�านวนไส้เดือนฝอยที่ท�าให้
ท�าให้เมล็ดข้าวเสียหายมาก การแพร่ระบาดของโรคเกิดจาก เกิดโรคต่าง ๆ ดังกล่าวมาแล้วนี้ โรครากกุดนับว่าเป็นโรค
การที่มีเพลี้ยจักจั่นสีเขียว (Nephotettixspp) และเพลี้ย ที่ส�าคัญมากที่สุด
จักจั่นปีกลายหยัด (Recilia dorsalis) เป็นตัวน�าโรค แมลง ๔.๑ โรครากกุด หรือรากปม (Root Knot)
พาหะเหล่านี้ เมื่อไปดูดกินต้นข้าวหรือต้นหญ้าที่เป็นโรคใบ สาเหตุ เกิดจากไส้เดือนฝอย Meloidogyne
สีส้มก็จะกลายเป็นแมลงน�้าเชื้อ ซึ่งเมื่อไปดูดกินต้นข้าวต้น Graminicola
อื่น ๆ ก็จะแพร่กระจายโรคไปด้วย ดังนั้นการระบาดของโรค ลักษณะอาการ ตัวอ่อนของไส้เดือนฝอย
จะมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับปริมาณของแมลงพาหะด้วย จะเข้าไปในรากข้างโดยเจาะเข้าไปทางปลายรากอ่อน เมื่อ
การป้องกันก�าจัด ฝังตัวและดูดกินอาหารจากรากก็จะปล่อยสารออกมา ท�าให้
๑. ใช้พันธุ์ข้าวต้านทาน เซลล์บริเวณนั้นมีการแบ่งตัวและขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว
๒. ใช้สารฆ่าแมลงพ่นเพื่อก�าจัดแมลงพาหะ เป็นอาหารแก่ไส้เดือนฝอยตัวเมีย ซึ่งจะเจริญกลายเป็นตัวแก่
การใช้สารควรเริ่มตั้งแต่ในระยะกล้าจนถึง ระยะแตกกอและ มีรูปร่างคล้ายผลฝรั่งรากข้าวจะพองขึ้นกลายเป็นปมราก
ควรฉีดพ่นป้องกันไว้ก่อนเพื่อไม่ให้แมลงพาหะลงมาดูดกิน กุดสั้น ท�าให้ไม่สามารถหาอาหารได้ ต้นข้าวจะชะงักการเจริญ
ต้นข้าวได้สารฆ่าแมลงที่แนะน�า ได้แก่ - Cabaryl เช่น sevin เติบโตและอาจตายได้ โรคนี้พบระบาดมากในพื้นนาที่เป็นดิน
85% W.P., MIPC เช่น Mipcin 50% W.P., Malathion เช่น ร่วนปนทราย ที่ไม่มีน�้าขัง
88