Page 47 - คู่มือพืช - ไร่
P. 47

คู่มือพืชไร่ - นา




                                   ฝ้าย                        การปลูกแต่ละลักษณะดังนี้
                                                                     ๑. ฝ้ายฤดูฝน เดิมใช้พันธุ์ สข.๓๒ และ สข.๑๔
                                                               แต่เนื่องจากไม่ต้านทานต่อเพลี้ยจักจั่น และโรคสมอเน่า
              แหล่งปลูก                                        กรมวิชาการเกษตรจึงได้พยายามค้นคว้าการปรับปรุงพันธุ์
                    แหล่งปลูกฝ้ายของโลกคือประเทศสหรัฐอเมริกา จีน   ใหม่ขึ้นมาเรื่อย ๆ เช่น ในปี พ.ศ. ๒๕๑๖ ได้แนะน�าพันธุ์

              โซเวียต อินเดีย อียิปต์ ปากีสถาน เม็กซิโก แอฟริกาใต้ ยูกันดา   Reba BTK 12 ซึ่งต้านทานต่อโรคใบหงิกได้ดีกว่า แต่ทรงพุ่ม
              ไนจีเรีย แทนซาเนีย                               ค่อนข้างทึบ และยังคงใช้ได้ดีในปัจจุบัน
                    ส�าหรับในประเทศไทยสามารถปลูกฝ้ายเป็นการค้า       ในปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ได้มีการแนะน�าพันธุ์ตากฟ้า ๑ ซึ่งเป็น
              ได้ทุกภาคยกเว้นภาคใต้ แหล่งปลูกใหญ่ ได้แก่ จังหวัด  ฝ้ายลูกผสมของพันธุ์ Riba BTK 12 กับพันธุ์ Stoneville 213

              นครราชสีมา เลย สุโขทัย เพชรบูรณ์ จันทบุรี ปราจีนบุรี   ซึ่งให้ผลผลิตสูงกว่าไม่ล้มง่าย ต้านทานต่อโรคใบหงิก และโรค
              อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน ชัยภูมิ นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี   ใบแห้ง (bacterial leaf blight) ได้ดีกว่าพันธุ์เดิม ต่อมามีการ
              กาญจนบุรี อุดรธานี ประจวบคีรีขันธ์ รวมเนื้อที่ปลูกปี   ปรับปรุงเป็นพันธุ์นครสวรรค์ ๑
              ๒๕๓๔/๓๕ เป็นเนื้อที่ประมาณ ๖๒๐,๘๓๔ ไร่ ได้ผลผลิต       พันธุ์อีกพันธุ์ที่มีลักษณะดีคือ G 115-7 ซึ่งเป็นพันธุ์

              ฝ้ายปุยทั้งเมล็ด ๑๒๘,๖๗๔ ตัน และในปี ๒๕๓๕/๓๖ มีเนื้อที่  ที่น�ามาจากประเทศ Ivory coast น�าเข้ามาทดสอบมาทดสอบ
              ปลูก ๔๘๒,๖๙๐ ไร่ ได้ผลผลิต ๙๙,๑๗๖ ตัน (ตารางที่ ๑)  เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๖ และเรียกว่าพันธุ์ศรีส�าโรง ๒ จากนั้น

                                                               มีการน�าไปผสมพันธุ์และปรับปรุงอีกเป็นพันธุ์ศรีส�าโรง ๖๐
              พันธุ์                                                 ๒. ฝ้ายฤดูแล้ง หมายถึง ฝ้ายที่ปลูกในที่นา หรือที่มี
                    การปลูกฝ้ายในประเทศไทยมี ๒ ลักษณะคือ ฝ้ายฤดูฝน   การชลประทาน ปลูกภายหลังการเก็บเกี่ยวข้าวเรียบร้อยแล้ว
              ปลูกในฤดูฝนโดยอาศัยน�้าฝนเพียงอย่างเดียว และฝ้ายฤดูแล้ง  พันธุ์ที่แนะน�าให้ใช้คือพันธุ์ Deltapine 16 และก�าลังมีการ
              คือ ฝ้ายที่ปลูกในฤดูแล้งโดยอาศัยน�้าชลประทานส�าหรับ  ทดสอบพันธุ์ที่มีอายุสั้นอื่น ๆ เช่น Camd 1-2, Cooker 201,

              การเจริญเติบโต กรมวิชาการเกษตรจึงแนะน�าพันธุ์ฝ้ายส�าหรับ Okra leaf Sp. 37-72, Delcot 277


              ตารางที่ ๑  เนื้อที่ ผลผลิตฝ้ายปีเพาะปลูก ๒๕๓๔/๓๕ และ ๒๕๓๕/๓๖


                    แหล่งปลูก                  เนื้อที่ปลูก          ผลผลิตรวม            ผลผลิตเฉลี่ย
                                                 (ไร่)                 (ตัน)               (กก./ไร่)

                                                                 ปีเพาะปลูก ๒๕๓๔/๓๕
                    ภาคเหนือ                   ๓๔๒,๘๑๓                ๖๗,๐๐๒                 ๒๑๐
                    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ      ๑๐๑,๑๙๘                ๒๐,๘๖๑                 ๑๙๘
                    ภาคกลาง                    ๑๗๖,๘๒๓                ๔๐,๘๐๗                 ๒๓๕
                                 รวม           ๖๒๐,๘๓๔               ๑๒๘,๖๗๔                 ๒๑๐
                                                                 ปีเพาะปลูก ๒๕๓๕/๓๖
                    ภาคเหนือ                   ๒๖๒,๐๙๘                ๕๑,๖๑๙                 ๒๒๒
                    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ      ๘๕,๒๙๒                 ๑๗,๒๒๗                 ๒๐๖

                    ภาคกลาง                    ๑๓๕,๓๐๐                ๓๐,๓๓๐                 ๒๓๓
                                 รวม           ๔๘๒,๖๙๐                ๙๙,๑๗๖                 ๒๒๒


              ที่มา : ศูนย์สถิติการเกษตร (๒๕๓๖)



                                                            36
   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52