Page 34 - คู่มือพืช - ไร่
P. 34

คู่มือพืชไร่ - นา




              มันอัดเม็ดเหล่านี้มักมีคุณภาพดี เรียกว่า hard pellets      ในการหมักมักเติมไนโตรเจนและฟอสฟอรัสลงไปใน
              แต่ถ้าการอัดด้วยเครื่องจักรขนาดเล็ก และมีประสิทธิภาพ Must และปรับ pH  ให้อยู่ระหว่าง ๔.๐ - ๕.๐  ในกระบวนการ
              ต�่า เม็ดมันที่ได้มักจะไม่แข็งพอ เวลาขนส่งจะแตกยุ่ยง่าย   หมักจะเกิดความร้อนตลอดเวลา (exothermal proce)
              เรียกว่า soft pellets                            จึงต้องคอยควบคุมความร้อนให้อยู่ระหว่าง ๓๐ องศาเซลเซียส

                    โรงงานแป้งมันส�าปะหลัง จะน�าหัวมันส�าปะหลังสด  ระยะเวลาในการหมัก ๓๖ - ๔๘ ชั่วโมง
              มาล้างเอาดินออกให้สะอาด แล้วน�าไปบดย่อยให้ละเอียด      เมื่อสิ้นสุดกระบวนการหมักจะได้น�้าไวน์ (wine) หรือ
              ผสมกับน�้าแล้วน�าน�้าแป้งที่ได้ไปผ่านไอร้อนเพื่อไล่น�้าออก   hydroalcoholic solution ซึ่งมี ethyl alcohol ๗ - ๑๑

              จะได้แป้งมันส�าปะหลัง (cassava or tapioca flour) เพื่อ เปอร์เซ็นต์ จากนั้นน�าน�้าไวน์ที่ได้ไปกรอง เพื่อแยกตะกอนและ
              ขายต่อไป ส่วนกากที่เหลือ (cassavameal) ใช้ผสมท�าอาหาร ยีสต์ออกไปใช้เลี้ยงสัตว์หรือน�าไปหมักต่อ ส่วนน�้าแอลกอฮอล์
              สัตว์ได้                                         จะถูกน�าไปกลั่นเพื่อแยกเอาแอลกอฮอล์ ๙๗.๒ เปอร์เซ็นต์
                    อัตราการแปรรูปหัวมันส�าปะหลังสด ๑ กก. จะได้  เหลือกากสุดท้ายคือ (๑๒ : ๑ กาก : แอลกอฮอล์) ซึ่งสามารถ
                    ๑.  มันส�าปะหลังเส้น          ๐.๔๐ กก.     น�าไปเลี้ยงสัตว์หรือท�าปุ๋ย

                    ๒.  มันส�าปะหลังอัดเม็ด       ๐.๓๗ กก.           แอลกอฮอล์ที่ใช้ในเครื่องยนต์ได้ ต้องมีความบริสุทธิ์
                    ๓.  แป้งมันส�าปะหลัง          ๐.๒๐ กก.     อย่างน้อย ๙๙.๙ เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นต้องเอาแอลกอฮอล์ที่ได้
                                                               ไปท�าให้บริสุทธิ์ขึ้น โดยขบวนการ dehydration โดยใช้สาร
              การผลิตแอลกอฮอล์จากมันส�าปะหลัง                  sodium acetate หรือ calcium oxide หรือสารพวก

                    เริ่มต้นจากการน�าหัวมันส�าปะหลังสดที่ผ่านการ  glycerine glycerols หรือ potassium carbonate ใน
              ชั่งน�้าหนักแล้วไปล้าง และปอกเปลือกออก (washing and  glycerol ผสมลงไปเพื่อ dehydrate น�้าออกแล้วน�าไปกลั่น
              peeling) เพื่อเอาสิ่งสกปรกและดินทรายออก เพราะความ แยกเอาแอลกอฮอล์ออกอีกครั้ง การผสมท�าเชื้อเพลิงใช้น�้ามัน
              สกปรกเหล่านี้ จะเป็นสาเหตุให้สิ้นเปลืองความร้อนหรือ  ๔ ต่อแอลกอฮอล์ ๑ ส่วน โดยปริมาตร นอกจากนี้แอลกอฮอล์

              เชื้อเพลิงขณะต้มมากขึ้น จากนั้นน�าหัวมันส�าปะหลังไปขูด  ที่ได้อาจน�าไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น เช่น ท�ายา ท�าเครื่องดื่ม
              หรือย่อย (grating) ให้มีขนาดเล็กลง เพื่อย่นระยะเวลาในการต้ม  ท�าน�้าหอม
              และเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการย่อย (hydrolysis) แป้งให้เป็นน�้าตาล    ในกระบวนการหมักเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO )
                                                                                                            2
              กลูโคส (glucose)                                 ซึ่งสามารถน�าไปใช้ประโยชน์ในการผลิตน�้าอัดลมได้ ส�าหรับ
                    การต้มเพื่อย่อยแป้งท�าได้ ๒ วิธี คือ       ยีสต์ที่ใช้ในการหมักคือ Sacharomyces cerevisiae ส่วน
                    ๑.  Acid hydrolysis โดยใช้กรด เช่น กรดซัลฟูริก  เอนไซม์ amylase จะสกัดจากราด�า : Pseudomonas sp.
              กรดไฮโดรคลอริก ย่อยสลายแป้งให้เป็นน�้าตาลกลูโคส วิธีนี้  และ Aspergillus usamii
              ไม่ค่อยนิยมใช้เพราะได้แอลกอฮอล์ต�่า และกรดที่ใช้มักกัดกร่อน

              ภาชนะเครื่องมือ
                    ๒.  Biological hydrolysis โดยใช้เอนไซม์ amylase
              และ amylo-glucosidase ย่อยแป้งให้เป็นน�้าตาลกลูโคส

              แทนการใช้กรดซึ่งจะใช้เวลานาน ๓๐ - ๖๐ นาที
                    หลังการย่อยจะได้สารเหนียวข้น (slurry lignifies) ของ
              กลูโคส เรียกว่า must ซึ่งจะถูกน�าไปหมัก (fermentation)
              โดยการเติมยีสต์ starter ๕ - ๑๐ เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณ
              Must เพื่อให้เปลี่ยนน�้าตาลเป็นแอลกอฮอล์






                                                            23
   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39