Page 36 - PDF_การทำเชื้อและเพาะเห็ด
P. 36

การทำาเชื้อ      29
                                                                                  และเพาะเห็ด


                       7.  คลุมด้วยพลาสติกให้ชิดกอง ใช้พลาสติก 1 ผืนกลบ
              ชายพลาสติกด้วยดินให้สนิท
                        8.  คลุมด้วยฟางแห้ง

                       9.  ทิ้งไว้ประมาณ 3 - 4 วัน แล้วแต่ฤดูกาล
                        10. เส้นใยเห็ดจะเดินขาวฟูในกอง ให้ท�าการตัดใย
              โดยใช้น�้าสะอาดรดบาง ๆ พอเส้นใยขาด

                       11. ขึ้นโครงโดยใช้ไม้ไผ่ปักโค้งห่างกันพอควร แล้วคลุม
              พลาสติกแบบเกยทับ 2 ผืน แล้วคลุมด้วยฟาง
                        12. หมั่นตรวจดูอุณหภูมิในกองเห็ด ถ้าร้อนจัดให้เปิด
              ข้างกองตอนเช้าหรือเย็น ครั้งละ 5 - 10 นาที แล้วปิดตามเดิม
                        13. หลังจากเพาะประมาณ 5 - 7 วัน ดอกเห็ดจะโต

              สามารถเก็บมาบริโภคและจ�าหน่ายได้
                       14. การเก็บดอกเห็ดควรเก็บในช่วงเช้ามืด และเก็บเมื่อ
              ดอกเห็ดยังตูมหัวแหลมจะได้น�้าหนักดี

                        15. หลังจากเริ่มเก็บเกี่ยวดอกเห็ดได้ประมาณ 3 - 5
              วัน ก็จะหมดรุ่น ให้เปิดกองรดน�้าพอชุ่ม ปิดทิ้งไว้ 5 - 7 วัน เห็ดจะเกิดดอกให้เก็บอีก 1 รุ่น แต่ดอกเห็ด
              จะเกิดน้อย
                    1.3  การเพาะเห็ดฟางจากเปลือกฝักถั่วเขียว
                       วัสดุอุปกรณ์

                       1.  เชื้อเห็ดฟาง
                       2.  เปลือกถั่วเขียว ควรเลือกเปลือกของฝักถั่วเขียวที่มีลักษณะป่นเล็กน้อยหลังจากนวด
              เอาเมล็ดออกแล้ว และต้องแห้ง ไม่ถูกน�้าหรือฝนจนกว่าจะน�ามาเพาะเห็ดฟาง

                       3.  สถานที่ ควรเป็นที่ดอน ไม่มีมด ปลวก แมลงต่าง ๆ และศัตรูของเห็ดฟางชนิดอื่น ๆ
              สถานที่นั้นต้องไม่เป็นดินเค็ม ดินด่างจัด หรือน�้าไม่ท่วมขัง ควรอยู่ใกล้แหล่งน�้าหรือสามารถหาน�้ามาใช้ได้
              สะดวก ต้องไม่เป็นที่ที่เคยเพาะเห็ดฟางมาก่อนอย่างน้อย 1 เดือน และที่ส�าคัญ บริเวณนั้นต้องไม่มีพิษ
              ตกค้างของสารเคมีป้องกันหรือก�าจัดศัตรูพืชใด ๆ ทั้งสิ้น
                        4.  น�้า ควรเป็นน�้าที่สะอาดปราศจากคลอรีนและกลิ่นเน่าเหม็น ไม่เป็นน�้าเค็ม หรือน�้ากร่อย

                       5.  อาหารเสริม ควรหาง่ายในท้องถิ่น มีลักษณะไม่อุ้มน�้ามากเกินไป ที่ได้ผลดี ได้แก่ ละอองข้าว
              ผสมมูลกระบือ มูลโค และปุ๋ยหมักที่สลายตัวแล้ว ส�าหรับอัตราส่วนของการผสมนั้นขึ้นกับสถานที่ด้วย
              เช่น ละอองข้าวกับปุ๋ยหมัก เท่ากับ 1:1 หรือ 4:3 หรือ 2:1 เป็นต้น

                        6.  แบบไม้หรือลังไม้ มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมคางหมู โดยมีด้านกว้างด้านบน 25 เซนติเมตร
              ด้านล่าง 30 เซนติเมตร ยาว 100 เซนติเมตร และสูง 25 เซนติเมตร นอกจากนี้ยังมีแผ่นไม้กด
              ใช้ส�าหรับกดเปลือกถั่วเขียว เพื่อความสะดวกในการท�ากองเพาะ โดยใช้ไม้แผ่นขนาดกว้าง 20 เซนติเมตร
              ยาว 30 เซนติเมตร และมีไม้ส�าหรับท�าด้ามจับลักษณะคล้ายเกรียงฉาบปูน
   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41